ดอกเกลือรักษาโรคสะเก็ดเงิน

มารู้จักโรคสะเก็ดเงิน
โรคสะเก็ดเงิน (Psoriasis) เป็นโรคผิวหนังเรื้อรังที่เกิดจากการแบ่งตัวผิดปกติของเซลล์ผิวหนังอย่างรวดเร็วกว่าปกติโดยการกระตุ้นของสารเคมีจากเซลล์เม็ดเลือดขาวที่เรียกว่า ลิมโฟไซต์ (Lymphocytes) ชนิดเซลล์ที (T-cell) ทำให้เกิดการอักเสบจนเกิดเป็นผื่นหนาขนาดใหญ่ มีลักษณะสีเงินและแดงที่ผิวหนังได้ทั่วร่างกาย โรคนี้สามารถเกิดได้ในคนทุกเพศทุกวัย

หากจำแนกตามประเภทของโรคพบว่ามีอยู่หลายชนิด แต่ที่พบได้บ่อยมีดังนี้

โรคสะเก็ดเงินชนิดผื่นหนาหรือปื้นหนา (Plaque Psoriasis/Psoriasis Vulgaris) เป็นชนิดที่พบมากที่สุดประมาณ 80% บริเวณผิวหนังจะมีลักษณะเป็นผื่นแดงหนาคลุมด้วยสีเงิน ส่วนใหญ่มักเกิดกับผิวบริเวณข้อศอก หัวเข่า และหนังศีรษะ
โรคสะเก็ดเงินชนิดผื่นขนาดเล็ก (Guttate Psoriasis) เป็นชนิดที่มักเกิดกับเด็กและวัยรุ่นเป็นส่วนใหญ่ โดยพบได้ประมาณ 10% ของโรคสะเก็ดเงินที่เกิดกับผู้ป่วย ลักษณะผิวหนังจะเป็นจุดสีชมพูขนาดเล็ก และอาจกลายเป็นผื่นหนาสีแดงได้เหมือนกับชนิดผื่นหนา สามารถเกิดได้บ่อยที่แขน ขา หรือตามลำตัว
โรคสะเก็ดเงินชนิดที่มีตุ่มหนอง (Pustular Psoriasis) เป็นชนิดที่เกิดได้มากในวัยผู้ใหญ่ บริเวณผิวหนังมีตุ่มหนองสีขาวกระจายเป็นวงกว้างและเกิดการอักเสบจนแดง มักพบมากตามแขนขา อาจเกิดการแพร่กระจายไปทั่วลำตัวได้ บางรายอาจมีอาการอื่นร่วมด้วย เช่น ไข้ขึ้น รู้สึกคันตามผิวหนัง ไม่อยากอาหาร
โรคสะเก็ดเงินชนิดเกิดตามข้อพับ (Inverse Psoriasis/Intertriginous Psoriasis) ผิวหนังเป็นผื่นแดง มีความเรียบและเงา มักเกิดขึ้นตามข้อพับและซอกต่าง ๆ ตามร่างกาย เช่น หน้าอก รักแร้ ขาหนีบ หรือรอบอวัยวะเพศ
โรคสะเก็ดเงินชนิดผื่นแดงลอกทั่วตัว (Erythrodermic Psoriasis) เป็นชนิดที่รุนแรงและพบได้น้อย เพราะสามารถเกิดขึ้นได้ประมาณ 3% โดยผิวหนังจะเกิดผื่นแดงขนาดใหญ่และลอกอย่างรุนแรง ทำให้ผู้ป่วยรู้สึกคันและเจ็บ


อาการของโรคสะเก็ดเงิน

ผู้ป่วยจะมีอาการที่แตกต่างกันออกไปตามชนิดของโรคสะเก็ดเงินที่ผู้ป่วยเป็น ความผิดปกติที่พบได้บ่อยตามร่างกาย เช่น ผิวหนังมีลักษณะแดง ตกสะเก็ดเป็นขุยสีขาว เป็นผื่นแดงนูน เกิดการอักเสบของผิว ผิวแห้งมากจนแตกและมีเลือดออก หนังศีรษะลอกเป็นขุย เล็บมือและเท้าหนาขึ้น มีรอยบุ๋ม ผิดรูปทรง ปวดข้อต่อและมีอาการบวมตามข้อต่อ และยังทำให้ผู้ป่วยมีอาการเจ็บ คัน หรือรู้สึกแสบร้อนบริเวณผิวหนัง ซึ่งการดำเนินของโรคแต่ละชนิดมีความคล้ายคลึงกัน อาการอาจคงอยู่นานหลายวันไปจนถึงหลายสัปดาห์ แล้วค่อย ๆ บรรเทาลง แต่เมื่อมีสิ่งมากระตุ้นก็อาจทำให้อาการของโรคกำเริบขึ้นมาได้ อย่างไรก็ตาม ในรายที่อาการไม่กำเริบอาจอยู่ในระยะสงบของโรค จึงทำให้ผู้ป่วยไม่พบอาการผิดปกติที่แสดงออกมา

สาเหตุการเกิดโรคสะเก็ดเงิน

โรคสะเก็ดเงินยังไม่พบสาเหตุการเกิดที่แน่ชัด แต่คาดการณ์ว่าปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดการพัฒนาของโรคขึ้นได้อาจมาจากเซลล์เม็ดเลือดขาวในระบบภูมิคุ้มกันเกิดความผิดปกติ จึงได้ทำลายเซลล์ผิวหนังแทนสิ่งแปลกปลอมที่เข้าสู่ร่างกาย และอีกปัจจัยมาจากการถ่ายทอดทางกรรมพันธุ์ของคนในครอบครัวที่เป็นโรคสะเก็ดเงินและโรคผิวหนังอื่น ๆ นอกจากนี้ยังมีปัจจัยภายนอกที่ช่วยกระตุ้นให้เกิดโรคได้ เช่น การบาดเจ็บบริเวณผิวหนัง การติดเชื้อเอชไอวี การใช้ยารักษาโรคหัวใจและความดันสูง หรือความเครียด ซึ่งปัจจัยที่เป็นตัวกระตุ้นเหล่านี้จะแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล


การรักษาโรคสะเก็ดเงินด้วยดอกเกลือ 
วันนี้เราจะมาแนะนำการรักษาโรคสะเก็ดเงิน ด้วยดอกเกลือ สังเกตุหลายๆคนแนะนำว่าถ้าเป็นโรคผิวหนังให้ไปแช่น้ำทะเล ซึ่งหลายคนพบว่าพอแช่น้ำทะเลแล้วอาการดีขึ้น จริงเป็นไปได้ว่าเกลือจะช่วยบรรเทาโรคผิวหนังให้ดีขึ้น

ดอกเกลือรักษาโรคสะเก็ดเงิน

1.อาบน้ำดอกเกลือ ทุกวัน วันละ 1 ครั้ง หลังอาบล้างตัวด้วยน้ำจืด (ใช้ดอกเกลือธรรมชาติไม่ผ่านการฟอกขาวหรือสารเคมีใดๆทั้งสิ้น) อัตราการใช้ ตักดอกเกลือ 1 ชามกินข้าว ผสมกับน้ำเปล่าครึ่งกะละมัง คนให้ละลายให้หมดหรือปล่อยให้ละลายเองก็ได้ ถ้าเป็นดอกเกลือธรรมชาติจะมีผงดินนอนก้นกะละมังบ้างเล็กน้อยหลังจากละลายหมด เพราะไม่ได้ผ่านการฟอกขาว เมื่อดอกเกลือละลายจนหมดแล้ว ให้เทน้ำส่วนบนใส่อีกกะละมังหนึ่ง เหลือแต่ดินที่ก้นให้เททิ้งไป จะเหลือแต่น้ำใสๆ เค็มๆ คล้ายน้ำทะเล
วิธีนี้เป็นวิธีที่เราทำ แต่สามารถเพิ่มลดอัตราดอกเกลือหรือน้ำได้ตามความต้องการ เรียกง่ายๆว่า ทำยังไงก็ได้ให้คล้ายน้ำทะเลมากที่สุด ถ้าเข้มข้นมากก็จะแสบๆ ผิวหน่อย แต่จะหายเองได้หลังจากอาบไปสักพัก

ตนแรกเราลองไปแช่น้ำทะเล เผื่อจะหายเลยไปแช่อยู่ครั้งหนึ่ง พอกลับมาบ้านผ่านไป 2-3 วัน คนที่บ้านบอกว่าดีขึ้นจริงๆ ดีกว่าก่อนไปทะเลอีก เขาเลยบอกให้เราไปแช่น้ำทะเลสักเดือนละครั้ง ถ้ามีโอกาส พอคุยกันไปคุยกันมาคงจะยากมากให้ขับรถไปทะเลบ่อยๆ เลยนึกถึงดอกเกลือเม็ดก็ทำมาจากน้ำทะเลเหมือนกัน และแถวบ้านก็หาซื้อง่ายด้วย 1 กระสอบ 100-120 บาท ใช้ได้เป็นเดือน สรุปนำมาผสมน้ำอาบทุกวันทดลองดู 1 เดือนก่อน ปรากฏว่าได้ผล ถ้าเป็นไปได้ให้แช่สักวันละครึ่งชั่วโมง กะละมังอาจจะเล็ก ลงไปแช่ก็ไม่ทั่วตัว กรณีเป็นทั้งตัว

สรรพคุณของดอกเกลือ https://xn--12ca9ctdsbd3e7c.com/ดอกเกลือเพื่อการบำรุงผ/

 

วิธีการอาบน้ำในกะละมังที่ผสมดอกเกลือ
1. ใช้กะละมัง 2 ใบ ใบที่ 1 ใส่น้ำดอกเกลือที่ผสมแล้ว

2. ยืนบนใบที่ 2 ใช้ขันตักน้ำใบที่ 1 ราดตัว ถ้าเป็นที่หัว ที่หน้า ก็ราดได้หมดตั้งแต่หัวจรดเท้า แต่ให้น้ำไหลลงกะละมังใบที่ 2 ตักอาบจนหมดกะละมังใบที่ 1

3. เปลี่ยนไปยืนในกะละมังใบที่ 1แทน ตักน้ำกะละมังที่ 2 ราดตั้งแต่หัวไหล่ลงไปจนหมด ครั้งนี้ไม่ต้องราดหัวและหน้าแล้วเพราะน้ำค่อนข้างขุ่น

4.ทำแบบนี้สลับไปมา ระหว่างกะละมังที่ 1 และ 2 สัก 5-6 รอบ หรือจับเวลาให้ได้ 10-15 นาที ยิ่งนานยิ่งดี ครึ่งชั่วโมงได้ยิ่งดี เพราะเวลาที่เราไปเล่นน้ำทะเล เราเล่นเป็นชั่วโมงเลย ดังนั้น ถ้าเราไม่ได้ไปทะเล เราจึงต้องทำน้ำดอกเกลือนี้ให้เสมือนกับน้ำทะเล หรือใช้วิธีอาบน้ำดอกเกลือให้ทั่วตัวแล้วทิ้งไว้ก่อน ไปแปรงฟัน สระผม ให้เสร็จแล้วกลับมาราดน้ำดอกเกลืออีก 1-2 รอบแล้วอาบน้ำจืดล้างตัวเป็นลำดับสุดท้าย

5. หลังอาบน้ำดอกเกลือและล้างน้ำจืดเสร็จ

6. แนะนำให้ใช้น้ำมันมะพร้าวบริสุทธิ์ 100% ทาผิวขณะตัวเปียกหมาดๆ ทาให้เบามือ อย่ารุนแรงกับผิวนะคะเดี๋ยวจะแย่กว่าเดิม
หรืออาจจะใช้เบบี้ออยก็ได้ค่ะ ทำให้ผิวชุ่มชื้นขึ้น